top of page

ประวัติเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี

416040.jpg

เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี 

ที่ตั้งปัจจุบัน

    เลขที่  168 หมู่ 3 ตำบลพลายวาส อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84160  

 

การบริหารราชการ 

    เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เป็นราชการบริหารส่วนกลางที่อยู่ในส่วนภูมิภาค ขึ้นตรงกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม


อำนาจการควบคุม    15 ปี ถึงประหารชีวิต
 

เขตอำนาจศาล

    -เขตอำนาจศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี  

    -เขตอำนาจศาลจังหวัดเวียงสระ  

    -เขตอำนาจศาลแขวงสุราษฎร์ธานี 

    -เขตอำนาจศาลจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี 

    -เขตอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ประวัติเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี

 

ผู้มีอำนาจดูแลเรือนจำ

-ผู้บัญชาการเรือนจำ เจ้าเมือง/ข้าหลวง (ผู้ว่าราชการ) เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยโดยทั่วไปของเรือนจำในเขตเมือง จังหวัด และอำเภอ

-พะธำมะรงค์ /พัศดี  เป็นหัวหน้าผู้คุมดูแลความเรียบร้อยประจำเรือนจำ

ตะราง/เรือนจำเมืองสุราษฎร์ธานี
1. ก่อน พ.ศ.2444 (ร.ศ.120) เป็นตะรางประจำเมือง  ตั้งอยู่ใกล้จวนเจ้าเมือง/ ข้าหลวง (ผู้ว่าราชการ) ผู้ทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของราษฎร บริเวณที่ตั้งจวนเจ้าเมืองตั้งอยู่ถนนหน้าเมือง ติดกับแม่น้ำหลวง (แม่น้ำตาปี) (บริเวณที่ตั้งที่ว่าการอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีปัจจุบัน : ความเห็นผู้เขียน) เพราะเดิมใช้เส้นทางน้ำเป็นทางสัญจรหลัก มีหน่วยราชการต่าง ๆ ใกล้เคียงกัน เช่น สุขศาลา (โรงพยาบาล) โรงพัก ศาลากลาง ศาล  ตะรางเป็นที่สำหรับขังนักโทษของเจ้าเมือง เป็นหน่วยงานในบังคับบัญชาของผู้ว่าราชการเมือง  อยู่ใกล้แม่น้ำตาปี ประมาณ 200 เมตร  ถนนตลาดใหม่ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

2. พ.ศ.2444  สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเรือนจำตามพระราชบัญญัติลักษณะเรือนจำ ร.ศ.120 เปลี่ยนตะรางเป็นเรือนจำ ปรากฏชื่อเรือนจำตามชื่อเมือง

 

เรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี (แห่งเดิม ที่ตั้ง : จวนผู้ว่าเมือง ริมแม่น้ำหลวง)

3. 13 ตุลาคม 2458  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ตรา “พระราชบัญญัติจัดตั้งกรมราชทัณฑ์” รวบรวมการคุก การตะราง การเรือนจำ ที่กระจัดกระจายตามหัวเมืองและสังกัดกระทรวงต่าง ๆ มาเป็นภารกิจในกรมราชทัณฑ์ ประกอบกับมีการแบ่งส่วนราชการจัดขึ้นเป็นจังหวัด จึงเป็นเรือนจำประจำจังหวัด ที่มีข้าหลวง /ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บังคับบัญชา

 

4. 23 พฤศจิกายน 2479 หลังการปฏิรูประบบการปกครอง มีการตราพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2479 เรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี สังกัดกรมราชทัณฑ์ เป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาค สังกัดกระทรวงมหาดไทย 

มีข้าหลวง /ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บัญชาการเรือนจำโดยตำแหน่ง และเรือนจำบางแห่งกรมราชทัณฑ์ได้มีการแต่งตั้งผู้บัญชาการเรือนจำขึ้นเป็นการเฉพาะ

106625_edited.jpg

8. ผู้บัญชาการเรือนจำที่มาจากการแต่งตั้งของกรมราชทัณฑ์คนแรก

    นายวิโรจน์   วิบูลย์ศิลป์ ได้รับแต่งตั้งจากกรมราชทัณฑ์ให้เป็นผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นคนแรก (ผู้บัญชาการเรือนจำที่ได้รับการแต่งตั้งจากกรมราชทัณฑ์)

 

9. เรือนจำกลางประธานเขต 8

    กระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งที่ 372/2529  ลงวันที่  27  มีนาคม  2529  ให้ยกฐานะเรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี สังกัดราชการบริหารส่วนกลาง  กรมราชทัณฑ์  กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายสมบูรณ์  ประสพเนตร   เป็นผู้บัญชาการเรือนจำกลาง สุราษฎร์ธานี เป็นคน

​​​​​​​​​​​​​10. ปี พ.ศ.2546  กรมราชทัณฑ์ได้ย้ายไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม

    การบริหารราชการเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี

    เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เป็นราชการบริหารส่วนกลางที่อยู่ในส่วนภูมิภาค ขึ้นตรงกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม อำนาจการควบคุมขณะนั้นกำหนดโทษไม่เกิน 20 ปี เขตอำนาจศาล ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ศาลจังหวัดเวียงสระ  ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ศาลจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ห้องสมุด.JPG
ภาพผังหน้ารจ.jpg

เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี  แห่งปัจจุบัน

11. เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ได้ย้ายจากถนนดอนนก อำเภอเมือง ไปยังอำเภอกาญจนดิษฐ์ เลขที่ 168 หมู่ที่ 3 ตำบลพลายวาส แล้วเสร็จและเปิดดำเนินการวันแรกเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 มีการแบ่งการควบคุมดูแลเป็น 10 แดน ดังนี้

    - แดน 1 แดนสูทกรรม

    - แดน 2 แดนเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย /แดนกักขัง

    - แดน 3 แดนพยาบาล

    - แดน 4 แดนรายสำคัญ

    - แดน 5 แดนนักโทษเด็ดขาด 2

    - แดน 6 แดนความมั่นคงสูง

    - แดน 7 แดนนักโทษเด็ดขาด 1

    - แดน 8 แดนแรกรับ

    - แดน 9 แดนหญิง

    - แดน 10 แดนการศึกษา

 

ปัจจุบันมีผู้ต้องขังชาย 4,201 คน ผู้ต้องขังหญิง จำนวน 505 คน รวม 4706 คน (10 ธันวาคม 2566)

ตะราง/เรือนจำเมืองสุราษฎร์ธานี

5. ในวันที่ 20 ตุลาคม 2487 เรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับตัวนักโทษคดีกบฏบวรเดชจากเรือนจำเกาะเต่าเพื่อทำการปล่อยตัวเนื่องจากมีการพระราชทานอภัยโทษนักโทษการเมือง

 

6.ประมาณ พ.ศ.2488 กรมราชทัณฑ์เตรียมการย้ายเรือนจำจากข้างจวนผู้ว่าราชการ เนื่องจากเป็นเรือนจำเก่าแก่ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ จำนวนนักโทษเพิ่มมากขึ้น ชุมชนเมืองมีความหนาแน่น จึงได้ทำการก่อสร้างอาคารที่ทำการของเรือนจำขึ้นที่ดอนนก ตำบลมะขามเตี้ย ที่เป็นสนามบินเก่า (ปัจจุบันติดเขตตำบลตลาด)

 

​​​​​​​​​​​​​​​​เรือนจำเก่าถนนตลาดใหม่ กำแพงเป็นสังกะสี

    ข้อมูลจาก พระเวียง  กุสลจิตโต  (นายเวียง ทะเขียว) อายุ 88 ปี (พ.ศ.2553)  ข้าราชการบำนาญ  อดีตเคยรับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนวิสามัญในตำแหน่ง ผู้คุมตรี ณ เรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2496 ให้ข้อมูลว่า เรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเนื้อที่ภายในเรือนจำประมาณ  2  ไร่เศษ มีเรือนนอนชาย เป็นเรือนนอนไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนโล่ง  2  หลัง  เรือนนอนหญิง  1 หลัง กำแพงสังกะสี ในสมัยนั้นมี  ร้อยตรี พยนต์  เปรมเดชา  (*ความเห็นผู้เขียน : ร้อยตรีพยอม? เปรมเดชา --อ้างถึงพัศดีเรือนจำเกาะเต่า ก่อนปิดทำการเรือนจำสำหรับนักโทษการเมือง ตามประวัตินักโทษการเมืองเรือนจำตะรุเตา จังหวัดสตูล สู่เรือนจำเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี) บ้านพักพัศดีอยู่บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีผู้คุมชาย ประมาณ  10  คนไม่มีผู้คุมหญิง  มีผู้ต้องขังประมาณ  600  คน มีผู้ต้องขังหญิงประมาณ 2 – 3 คน

เรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี (แห่งเดิม ที่ตั้ง : สนามบินเก่า ดอนนก)

7. พ.ศ. 2497  เรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ย้ายมาถนนดอนนก เลขที่  78  ถนนดอนนก  ตำบลตลาด  อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่บริเวณนี้เป็นสนามบินเก่า  มีเนื้อที่ทั้งหมด 17  ไร่  3  งาน  4  ตารางวา เนื้อที่ภายในเรือนจำ จำนวน  10  ไร่  4  งาน  60  ตารางวา  ขณะที่ย้ายมาในตอนแรกมีเรือนนอนชายเป็นเรือนนอนไม้    ชั้นเดียว ใต้ถุนโล่ง  2  หลัง  เรือนนอนหญิง ชั้นเดียว  1  หลัง สมัยนี้เรือนจำมีรั้วสังกะสีเป็นเขตที่อยู่ของนักโทษ ไม่มีกำแพงปูนเช่นปัจจุบัน มีร้อยตรีพยนต์  เปรมเดชา (ร้อยตรีพยอม เปรมเดชา พัศดีเรือนจำเกาะเต่าเดิม? : ผู้เขียน) เป็นพัศดีคนแรกของเรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ดอนนก) การฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง คือ ช่างไม้  ช่างจักรสาน เป็นหลัก 

 

สร้างกำแพงปูน

    ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2516 – 2517  นายฟื้น  วิมุติพันธ์  ต่อเนื่องถึงนายวิโรจน์  วิบูลย์ศิลป์  เป็นพัศดี  ได้รับงบประมาณจากกรมราชทัณฑ์ ทำการก่อสร้างกำแพงคอนกรีตแบบถาวรความสูง 6 เมตร ​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​

แผนการย้ายเรือนจำออกนอกเมือง

    กรมราชทัณฑ์มีแผนเตรียมการย้ายเรือนจำเก่าที่อยู่ใจกลางชุมชน มีผู้ต้องขังหนาแน่น ออกไปนอกเมือง จึงจัดหาสถานที่ก่อสร้างเรือนจำที่บริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์ ป่าทุ่งเขนสาธารณประโยชน์ ตำบลพลายวาส ซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขนที่ไปดำเนินการสำหรับเตรียมความพร้อมผู้ต้องขังก่อนปล่อยตัวพ้นโทษอยู่แล้ว เนื้อที่ทั้งหมด 413-2-08 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่สำหรับการก่อสร้าง จำนวน 106-0-22 ไร่ ภายใน 42 ไร่เศษ 

    เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2558 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 

    ก่อนการย้ายเรือนจำแห่งเดิมที่ถนนดอนนก อำเภอเมือง มีผู้ต้องขังชาย จำนวน 2,578 คน ผู้ต้องขังหญิง 263 คน อำนาจการควบคุมขณะนั้นกำหนดโทษไม่เกิน 20 ปี

 

    มีการย้ายผู้ต้องขังไปทำการปรับปรุงพื้นที่ ทดสอบอาคาร และปรับปรุงทัศนียภาพ รวมถึงทดสอบระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 จำนวน 150 คน

created by Sirirak, June 2021

bottom of page